
ท่อประปา PPR ท่อคุณภาพสูงสำหรับน้ำร้อน และน้ำเย็น ปลอดภัย ไม่มีรั่วซึม

ท่อประปา PPR ทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับบ้านและอาคาร
หากคุณกำลังมองหา ท่อประปาคุณภาพสูง ที่ตอบโจทย์และคุ้มค่า สำหรับระบบประปาในบ้าน โรงแรม หรือโรงงานอุตสาหกรรม ท่อ PPR (Polypropylene Random Copolymer) อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยคุณสมบัติพิเศษของท่อ PPR ที่ทนความร้อนสูง ทนแรงดัน เหนียว ยืดหยุ่น ไม่เปราะแตกง่าย ไม่เกิดสนิม ไม่มีสารตกค้าง พร้อมอายุการใช้งานยาวนานกว่า 50 ปี
คุณสมบัติเด่นของท่อ PPR

รองรับน้ำร้อนและน้ำเย็น
ทนความร้อนได้สูงถึง 95°C เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านและอุตสาหกรรม ใช้เป็นท่อน้ำร้อนได้

ไม่มีสารตกค้าง สะอาดปลอดภัยผ่านการทดสอบมาตรฐาน
เหมาะกับระบบน้ำดื่ม ไม่เกิดสนิม ไม่ส่งผลต่อคุณภาพน้ำ

ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
ใช้เครื่องเชื่อมความร้อน เชื่อมแน่นติดตั้งเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่รั่วซึม ลดปัญหาท่อรั่ว

ทนแรงดันสูง
โครงสร้างแข็งแรง รองรับแรงดันน้ำสูงสุดถึง 20 บาร์

อายุการใช้งานยาวนาน
ใช้งานได้มากกว่า 50 ปี* คุ้มค่ากว่าท่อ PVC หรือท่อเหล็ก

เหมาะสำหรับการติดตั้งเป็นท่อน้ำประปาภายในบ้าน และ ระบบท่อน้ำร้อนในโรงงาน
รวมถึง ท่อเมนประปา ในอาคารขนาดใหญ่

ใช้ได้ทั้งในระบบน้ำดื่ม และระบบประปา
ใช้ได้ทั้งในระบบน้ำดื่ม และระบบประปาภายในอาคาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* การรับประกันอายุการใช้งาน ขึ้นอยู่กับแรงดัน และอุณหภูมิ
ท่อ PPR เหมาะกับใคร?
-
บ้านพักอาศัย – ต้องการระบบน้ำสะอาด ปลอดภัย ไร้สารปนเปื้อน
-
โรงแรมและอาคารสูง – ต้องการระบบประปาในอาคารต้องรองรับแรงดันสูงและการใช้งานต่อเนื่อง
-
โรงงานอุตสาหกรรม – ต้องการท่อที่รองรับน้ำร้อนและน้ำเย็นอย่างมีประสิทธิภาพ

ท่อ PPR ดีกว่าท่อ PVC หรือท่อเหล็กอย่างไร?
ท่อประปามีให้เลือกหลายประเภท แต่ละชนิดมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว ท่อ PVC และท่อเหล็กเป็นตัวเลือกที่นิยมใช้กัน แต่ ท่อ PPR มีข้อดีเหนือกว่าทั้งสองประเภทนี้ในหลายด้าน
เปรียบเทียบระหว่างท่อ PPR, ท่อ PVC และท่อเหล็ก

ท่อประปา PPR คุ้มค่าราคา
เราจำหน่าย ท่อประปาสีเขียว PPR คุณภาพสูง พร้อมอุปกรณ์ติดตั้งครบชุด ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
- จัดส่งทั่วประเทศ
- เหมาะสำหรับบ้านพัก โรงแรม โรงงาน และอาคารพาณิชย์ที่ต้องการระบบประปาที่มีความทนทานและปลอดภัย
- รับประกันคุณภาพสูงสุด 10 ปี
เปรียบเทียบราคาท่อประปา PPR กับท่อประปาประเภทอื่น
ท่อ PPR – แม้ราคาสูงกว่าท่อ PVC เล็กน้อย แต่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 3 เท่า ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ลดต้นทุนระยะยาว
ท่อ PVC – ราคาถูกกว่าแต่เปราะ แตกง่าย และไม่ทนน้ำร้อน
ท่อเหล็ก – แข็งแรงแต่เกิดสนิมง่าย ต้องซ่อมบำรุงบ่อย
ลงทุนกับท่อ PPR วันนี้ ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวไปอีกหลายสิบปี!
การติดตั้งท่อ PPR ทำอย่างไร?
ตัดท่อให้ได้ขนาด – ใช้เครื่องมือตัดที่เหมาะสม
กำหนดระยะเชื่อม – ใช้ปากกามาร์คเกอร์วัดระยะความลึกของท่อก่อนเชื่อม
เชื่อมท่อด้วยความร้อน – ใช้เครื่องเชื่อม PPR เชื่อมท่อและข้อต่อตามระยะเวลาบนเส้นท่อ
ตรวจสอบรอยเชื่อม – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีรั่วซึม
ทดสอบระบบ – เปิดน้ำทดสอบแรงดันก่อนใช้งานจริง
ทำไมท่อน้ำ PPR จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับระบบประปา?
หากคุณกำลังมองหาท่อประปาที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความทนทาน ความปลอดภัย และใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นท่อน้ำร้อน หรือท่อเมนประปาในบ้าน อาคารสูง หรือโรงงานอุตสาหกรรม ท่อ PPR อาจเป็นอีกทางเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม
ท่อ PPR มีจุดเด่นเรื่องความแข็งแรง ทนต่อแรงดันและอุณหภูมิสูง ช่วยลดปัญหาท่อรั่ว หรือแตกร้าวที่มักพบในระบบประปาแบบเดิม ๆ อีกทั้งยังไม่มีปัญหาตะกรันสะสมในเส้นท่อเหมือนท่อเหล็ก จึงเหมาะกับการเป็นท่อน้ำประปาสำหรับน้ำดื่มด้วย
นอกจากนี้ ท่อน้ำ PPR หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ท่อประปาสีเขียว ยังติดตั้งง่าย อายุการใช้งานยาวนาน และเมื่อเปรียบเทียบกับ ราคาท่อประปาชนิดอื่น ๆ แล้ว ถือว่าคุ้มค่าในระยะยาว
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนท่อเก่า หรือวางระบบใหม่ การเลือกท่อน้ำ PPR จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ชาญฉลาดในการสร้าง ระบบประปา ที่มั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
A1: ท่อ PPR หรือ ท่อประปาสีเขียว นอกจากใช้เป็น ท่อเมนประปา แล้ว ยังใช้ได้ในระบบ HVAC, ท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น, ระบบน้ำดื่มในโรงพยาบาล หรือแม้แต่โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาดสูง
A2: หากอาคารสูงเกิดปัญหาท่อรั่วบ่อยครั้ง แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้ ท่อน้ำ PPR เพระลดความเสี่ยงการรั่วซึมในแนวท่อแนวดิ่งที่มักเกิดขึ้นบ่อยในอาคารสูง และยังสามารถรองรับแรงดันน้ำที่มากจากระบบปั๊มในอาคารสูงได้ดี ไม่เป็นสนิม อายุการใช้งานยาวนาน
A3: ได้แน่นอนครับ หากเชื่อมอย่างถูกต้องตามวีธีการเชื่อม เพราะ ท่อ PPR ใช้การเชื่อมด้วยการหลอมเป็นเนื้อเดียวกันด้วยความร้อน ทำให้ไม่มีรอยรั่วหรือจุดรั่วซึมเหมือนระบบท่อทั่วไป
A4: ท่อน้ำประปา PPR ใช้กับน้ำดื่มได้ เพราะวัสดุ PPR ไม่มีสารปนเปื้อน ไม่เกิดตะกรันหรือสนิมในเส้นท่อ และผ่านการรับรองมาตรฐานการใช้งานกับน้ำดื่มระดับสากล เช่น DVGW, SKZ, NSF
A5: ราคาท่อประปาแบบ PPR อาจสูงกว่าเล็กน้อย แต่ประหยัดระยะยาวเพราะทนทาน ไม่รั่ว ไม่เป็นสนิม ไม่ต้องซ่อมบ่อย และรองรับระบบน้ำร้อนที่ท่อ PVC ไม่สามารถทำได้