ท่อ PPR (PPR Pipe) มาตรฐานเยอรมนี
สำหรับระบบน้ำร้อน–น้ำเย็น และ HVAC | Polymelt Thailand
คำถามยอดนิยมจากวิศวกรและผู้รับเหมาคือ ‘ท่อ PPR มีกี่แบบ’
และแต่ละแบบเหมาะกับงานประเภทใด
ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา “ท่อ PPR (PPR Pipe หรือ Polypropylene Random Copolymer Pipe)” ได้กลายเป็นวัสดุมาตรฐานใหม่ในงานระบบน้ำของอาคารยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาคารพักอาศัย โรงแรม โรงพยาบาล หรือโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสาเหตุที่ท่อ PPR ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เพราะท่อ PPR คุณสบัติเด่นที่ท่อโลหะทั่วไปให้ไม่ได้ เช่น
- ไม่เป็นสนิม และ ไม่เกิดตะกรัน จึงรักษาคุณภาพน้ำได้ดี
- น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ลดเวลา และต้นทุนในการติดตั้งและทำงานได้อย่างรวดเร็ว
- ทนความร้อน และ แรงดันสูง เหมาะกับใช้เป็นท่อ PPR น้ำร้อน และ ท่อในระบบปรับอากาศ
- รอยเชื่อมแน่นเป็นเนื้อเดียว ด้วยเทคโนโลยี Fusion Welding ทั้ง Socket Fusion/ Butt Fusion/ Electro Fusion ทำให้ลดการเกิดท่อรั่วซึม
- อายุการใช้งานยาวนานกว่า 50 ปี* เมื่อใช้งานตามมาตรฐานแรงดัน–อุณหภูมิที่ถูกต้อง
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานระบบท่อน้ำร้อนในโรงแรม หรือระบบน้ำเย็นในอาคารสูง ท่อ PPR (PPR Pipe) ได้กลายเป็นวัสดุหลักที่วิศวกรเลือกใช้แทนท่อเหล็ก ท่อทองแดง หรือ ท่อ PVC แบบเดิม
* โปรดตรวจสอบอายุการใช้งาน อุณหภูมิ และแรงดันทุกครั้ง เมื่อใช้งานกับน้ำที่มีอุณหภูมิสูง และควรเลือกท่อที่สามารถใช้งานได้ 50 ปี
การพัฒนาไปอีกขั้นด้วย PP-RCT – ท่อที่ออกแบบเพื่อความทนทานสูงสุด
เพื่อรองรับการใช้งานในสภาวะที่หลากหลายขึ้น เช่น การรองรับแรงดันที่สูงขึ้น หรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงเกิดการพัฒนาเป็น “ท่อ PP-RCT (Polypropylene Random Crystallinity Temperature)” ขึ้นมา
ท่อ PP-RCT คือวิวัฒนาการจาก ท่อ PPR (PPR Pipe) ที่มีโครงสร้างโมเลกุลแข็งแรงกว่า ทำให้สามารถรับแรงดันได้สูงถึง 20 บาร์ และรองรับอุณหภูมิได้ 3-95°C* ซึ่งท่อ PP-RCT นี้ ที่อุณหภุมิสูงจะมีความทนทานมากกว่าท่อ PP-R ปกติมาก และในงานระบบปรับอากาศ ( HVAC ) ทั้งส่วนของท่อชิลเลอร์ และท่อ cooling นิยมใช้ PP-CRT มาก เนื่องจาก PP-RCT มีความแข็งแรง จึงสามารถใช้ท่อที่มีความหนาลดลง และมีปริมาณ Flow ของน้ำที่สูงขึ้น และมีอายุการใช้งานยาวนาน จากคุณสมบัติดังกล่าว ทำให้ท่อ PP-RCT มีความเหมาะสมสำหรับเป็นท่อ PPR น้ำร้อน และท่อ PPR น้ำเย็น และระบบปรับอากาศเป็นอย่างมาก
* โปรดตรวจสอบอายุการใช้งาน อุณหภูมิ และแรงดันทุกครั้ง เมื่อใช้งานกับน้ำที่มีอุณหภูมิสูง และควรเลือกท่อที่สามารถใช้งานได้ 50 ปี
Polymelt – ระบบท่อเยอรมนีเพื่อโครงการระดับสากล
และนี่คือจุดที่ Polymelt Thailand เข้ามาเป็นผู้นำในตลาด PPR ด้วยระบบท่อ PPR & PP-RCT (PPR Pipe) คุณภาพเยอรมนีแท้ ผลิตและนำเข้าจากประเทศเยอรมนีโดยตรง รองรับระบบท่อของอาคาร และโรงงานยุคใหม่ ทั้ง ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น และระบบปรับอากาศ (HVAC) ด้วยวัสดุคุณภาพสูง และการติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว โดยการเชื่อมด้วยความร้อน หรือระบบ Fusion Welding ทั้ง Socket Fusion/ Butt Fusion/ Electro Fusion ที่เชื่อมเป็นเนื้อเดียวกัน ลดการรั่วซึม และได้รับการยอมรับทั่วโลก ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน DVGW และ SKZ
นอกจากนี้ ผิวในของท่อ PPR แบรนด์ Polymelt ยังมีความเรียบเนียน ลดการเกิดตะกรัน และเชื้อแบคทีเรียภายในเส้นท่อ จึงมั่นใจได้ว่า จะได้ที่มีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัยตามมาตรฐานน้ำดื่มยุโรป
อ่านเพิ่มเติม Polymelt PPR & PP-RCT Pipe
การใช้งานที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกประเภทอาคารและระบบ
ท่อ PPR ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ครอบคลุมทั้งภาคอาคารและอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติเด่นที่สามารถทนแรงดันและอุณหภูมิได้สูง มีความเสถียรในการขยายตัว และปลอดการรั่วซึม
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นงานระบบน้ำร้อน น้ำเย็น ระบบปรับอากาศ หรือท่อน้ำในโรงงาน ท่อ PPR & PP-RCT Pipe ของ Polymelt ก็สามารถใช้งานได้ในหลากหลายระบบ เช่น
ระบบน้ำร้อน–น้ำเย็นในอาคาร (Hot & Cold Water System)
ระบบท่อ PPR น้ำร้อนในอาคาร เช่น โรงแรม โรงพยาบาล และคอนโด จำเป็นต้องใช้ท่อที่ทนความร้อนสูงและไม่รั่วซึม ท่อ PPR & PP-RCT จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับระบบน้ำร้อน เนื่องจากถูกออกแบบให้รองรับอุณหภูมิได้ถึง 95°C พร้อมแรงดันสูงสุด 20 บาร์ เหมาะกับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น
- ระบบน้ำร้อนสำหรับห้องพักในโรงแรม
- ระบบน้ำร้อนสำหรับเครื่องทำน้ำร้อนรวม (Central Water Heater)
- ระบบน้ำเย็นสำหรับอาคารสำนักงานหรือห้างสรรพสินค้า
ด้วยคุณสมบัติของวัสดุ PPR ที่ช่วยลดการขยายตัวของท่อจากความร้อน ทำให้แนวท่อคงรูป ไม่แอ่นงอ และไม่เกิดการรั่ว หรือแตกหักใช้งานระยะยาว
ระบบปรับอากาศ (HVAC & Mechanical Pipe System)
ระบบท่อปรับอากาศหรือ HVAC System เป็นหนึ่งในระบบที่มีความซับซ้อน และต้องการวัสดุที่มีความคงตัวสูงมาก เพราะต้องรับทั้งแรงดันจากปั๊มน้ำ และอุณหภูมิที่ผันผวนระหว่างน้ำเย็นจ่าย และน้ำเย็นกลับ (Chilled Water Supply & Return) ตั้งแต่ประมาณ 6–13°C การเลือกท่อที่สามารถรองรับเงื่อนไขของระบบปรับอากาศจึงเป็นสิ่งสำคัญ
Mechanical PP-RCT Pipe ถูกพัฒนาเพื่อรองรับงานประเภทนี้โดยเฉพาะ
- ทนแรงดันได้สูงถึง 20 บาร์
- ลดการยืดหดของท่อจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
- ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับท่อเหล็กหรือท่อทองแดง
- ไม่มีการกัดกร่อนหรือเกิดสนิมภายในแนวท่อ
ระบบน้ำอุตสาหกรรมและโรงงาน (Industrial & Process Water System)
ทนสารเคมี ไม่เป็นสนิม และไม่มีการปนเปื้อน เหมาะกับระบบน้ำดื่มหรือกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม
ในงานอุตสาหกรรม เช่น โรงงานผลิตอาหาร โรงงานยา หรือโรงงานเคมี ระบบน้ำมักสัมผัสกับสารเคมีและอุณหภูมิที่หลากหลาย
ท่อ PR & PP-RCT มีความทนทานต่อสารเคมี และการกัดกร่อนสูง จึงเหมาะกับระบบน้ำที่ต้องการความสะอาดและความเสถียร เช่น
- ระบบ Process Water หรือ Cooling Water Loop ภายในสายการผลิต
- ระบบท่อในห้องเครื่อง (Boiler Room / Pump Room) ที่ต้องทนแรงดันสูง
นอกจากนี้ ท่อ PPR ยังสามารถใช้ในระบบท่อน้ำดื่มภายในโรงงานและสำนักงานได้อย่างปลอดภัย เพราะไม่เกิดสนิม ไม่มีสารปนเปื้อนในเส้นท่อ จึงไม่เกิดการดูดซับกลิ่นหรือรสของน้ำ
มาตรฐานระดับโลก จากประเทศเยอรมนี
DVGW (German Technical and Scientific Association for Gas and Water) และ SKZ (Süddeutsches Kunststoff-Zentrum) เป็นองค์กรรับรองมาตรฐานด้านระบบท่อที่เข้มงวดที่สุดในยุโรป การที่ท่อ Polymelt ผ่านการรับรองจากทั้งสองสถาบัน แสดงถึงความเชื่อถือได้ในด้าน
เทคโนโลยีการเชื่อมด้วยความร้อนที่เหนือกว่า (Fusion Welding System)
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ท่อ PPR & PP-RCT ที่แตกต่างจากท่อทั่วไป คือระบบการเชื่อมต่อแบบ Fusion Welding (ระบบเชื่อมด้วยความร้อน) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมที่ทำให้ “แนวรอยต่อระหว่างท่อและข้อต่อหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน” ไม่เกิดการรั่วซึมแม้ภายใต้แรงดันสูงหรือน้ำร้อน
ท่อ PPR & PP-RCT ใช้วิธีการติดตั้งด้วยความร้อนได้ 3 วิธี เพื่อให้เหมาะกับทุกขนาดและประเภทการติดตั้ง ได้แก่
เชื่อมสอด (Socket Fusion)
สำหรับท่อขนาดเล็กถึงกลาง ใช้กับท่อ PPR ที่มีขนาดตั้งแต่ ½” – 4”
เชื่อมชน (Butt Fusion)
วิธีการให้ความร้อนที่ปลายท่อทั้ง 2 เส้นในระยะเวลาที่กำหนด ใช้กับท่อขนาดใหญ่ตั้งแต่ 3” – 20”
เชื่อมด้วยระบบไฟฟ้า
วิธีการเชื่อมด้วยการปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าขดลวดที่ฝังอยู่ในผนังของข้อต่อ PPR (E.F.) เพื่อสร้างความร้อนทำให้เนื้อท่อและข้อต่อของ Polymelt หลอมเป็นเนื้อเดียวกัน เหมาะสำหรับแนวท่อเมน (Main)
เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้การติดตั้งท่อ PPR ได้รวดเร็ว มีความปลอดภัยสูง ไม่รั่วซึม ไม่ต้องใช้กาวหรือสารเคมีใดๆในการเชื่อมท่อ
ติดต่อเราเพื่อขอใบเสนอราคาท่อประปา PPR